มูลนิธิเอสซีจีมุ่งลดความเหลื่อมล้ำด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนมานานกว่า 60 ปี จนถึงปัจจุบัน ได้ให้ทุนการศึกษาไปแล้วกว่า 100,000 โดยเน้นหลักสูตรการเรียนที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน ได้แก่ หลักสูตรด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ หลักสูตรด้านอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve หลักสูตรด้านเทคโนโลยี IT เป็นต้น พร้อมขยายแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมูลนิธิเอสซีจี ได้จัดงาน Learn to Earn : The Forum จุดประกาย และเปิดมุมมองใหม่ ให้เยาวชน ได้เรียนรู้ ปรับตัว เพิ่มทักษะความรู้ และทักษะชีวิต (Soft skill & Hard skill) ให้สามารถอยู่รอดได้ในโลกยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยได้ผนึกกำลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ได้รับเกียรติจาก 4 Key Drivers ของประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและมุมมองผ่านการเสวนาหัวข้อ
การมีใบปริญญาติดฝาบ้าน ไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จในชีวิตอีกต่อไปแล้ว เพราะชีวิตที่ประสบความสำเร็จของแต่ละคน ไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับ การเรียนรู้ ความมุ่งมั่นพยายาม ปรับตัวการไขว่คว้าโอกาสที่เข้ามา กระทั่งจังหวะเวลา ของแต่ละคน ดังเช่นแนวคิด Learn to Earn ที่มูลนิธิเอสซีจี กำลังขับเคลื่อน โดยสนับสนุนการเรียนรู้ทั้ง Hard Skill ทักษะเพื่อการประกอบวิชาชีพ ผสานกับ Soft Skill หรือทักษะการใช้ชีวิต ซึ่งจะทำให้สามารถรับมือและอยู่รอดได้ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เอิร์ธ ธรรมรัฐ มูลสาร วัย 22 ปี จากโครงการต้นกล้าชุมชน โดยมูลนิธิเอสซีจี ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างแนวคิดของการเรียนรู้เพื่ออยู่รอด นี้ หลังจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แม้ว่าเพื่อนๆ ร่วมชั้น ต่างพากันเลือกเส้นทางชีวิตเข้าศึกษาต่อในสาขาต่าง ๆ ในหลากหลายมหาวิทยาลัย แต่ “เอิร์ธ” ค้นพบตัวเองว่า ไม่ใช่คนเรียนเก่ง จึงตัดสินใจเลือกเส้นทาง ที่ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ และมุ่งหาคำตอบและทางรอดของชีวิตเพื่ออนาคตของตนเอง เมื่อมีโอกาสเข้ามา “เอิร์ธ” ตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินสายอาชีพ ผ่านการเรียนรู้ “การตีเหล็กโบราณ”
มูลนิธิเอสซีจี ส่งความห่วงใยถึงมือเด็กและเยาวชน มอบชุดตรวจโควิด 19 (ATK) จำนวน 1,000 ชุด และหน้ากากเฉพาะสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 กล่อง ผ่านเครือข่ายจิตอาสา อาทิ สภาเด็กและเยาวชนกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ศูนย์สร้างโอกาสเด็ก พระราม 8 กลุ่มสายไหมต้องรอด และชุมชนตึกแดงบางซื่อ เพื่อให้เด็กๆ มีอุปกรณ์ปกป้อง ยกการ์ดตั้งสูง ปลอดภัยจากโควิด 19 #มูลนิธิเอสซีจี #ช่วยกันแคร์ดูแลกัน #เชื่อมั่นในคุณค่าของคน
มูลนิธิเอสซีจี มอบฉากกั้นสำหรับการฉีดวัคซีน ให้กับ รพ. ศิริราช โดยติดตั้งไว้ที่คณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID -19
มูลนิธิเอสซีจีได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Thai PBS จัดส่งอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อ ให้กับโรงพยาบาลสนามศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 (วัดสะพาน พระโขนง) เขตคลองเตย กทม. เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์คลองเตย
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในตอนนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มูลนิธิเอสซีจี จึงได้มอบ "ห้องป้องกันเชื้อความดันลบ (Negative Pressure Isolation Room)" ให้แก่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เพื่อใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
“โอมเริ่มต้นแรงบันดาลใจในการทำความดี จากการเห็นลูกพี่ลูกน้องทำงานกู้ภัย บวกกับตัวเองเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น จึงได้มาเป็นส่วนหนึ่งของอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย/ผู้เดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ พ่วงแบตเตอรี่ ลากรถ เก็บศพ อื่นๆ ก็ทำหมด ตลอด 24 ชม.ครับ
“ช่วงนี้ของผมก็คงเหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ต้องเรียนออน์ไลน์ที่บ้าน แต่อาจจะต่างตรงที่ว่าทางบ้านของผมฐานะค่อนข้างลำบาก ผมจึงต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เหนื่อยแต่ก็ทำได้ครับ
"คุณสุวิมล จิวาลักษณ์" กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี นำทีมพาน้องๆ ต้นกล้าชุมชน ที่ขับเคลื่อนงานด้านการเกษตร ศึกษาดูงานเพาะปลูกพืชด้วยวิธีการเกษตรสมัยใหม่
อสม.คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณค่า เป็นคนที่ทุ่มเทเสียสละทำเพื่อหมู่บ้าน ทำเพื่อทุกคนในครอบครัวทำด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ อย่างไม่รู้จักย่อท้อเพื่อให้ทุกคนในชุนชมอุ่นใจและมีความสุข ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ติดตามการทำงานของ อสม.หญิง ซุปเปอร์ฮีโร่ของชุมชนบ้านน้ำตวง จ.น่าน ที่การันตีว่าทุกตารางนิ้วปลอดผู้ติดเชื้อ