จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 5 เดือน ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกในทุกมิติ รวมถึงบรรดาสัตว์ ต่างๆ อีกด้วย การมีจิตสาธารณะหยิบยื่นความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ เป็นการแบ่งเบาความทุกข์ยากของผู้ที่กำลังประสบปัญหาได้อีกหนึ่งหนทางหนึ่ง โดยการให้ความช่วยเหลือสังคมนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ
มูลนิธิเอสซีจีจึงขอเป็น สะพานบุญ สะพานใจ นำตัวอย่างของการช่วยเหลือแบ่งปันให้กับสังคมในช่วงโควิด-19 ที่มีความน่าเชื่อถือ หลากหลายโครงการ ภายใต้รูปแบบการออนไลน์ที่ปลอดภัยตามหลักการของ Social Distancing มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อท่านใดจะสนใจร่วมออกแรงกาย แรงใจ หรือ กำลังทรัพย์ ตามความถนัดหรือความสะดวกของแต่ละคน
ช่วยเหลือการแพทย์และสาธารณสุข
กองทุนพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน และ รพ.สต. สู้ภัยโรคอุบัติใหม่ โควิด-19
กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นโดย มูลนิธิแพทย์ชนบท ที่อาสาเป็นองค์กรกลางในการระดมความช่วยเหลือแก่โรงพยาบาลชุมชนกว่า 778 แห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาลชุมชนเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการควบคุมโรคโควิด โดยช่วยให้ผู้ติดเชื้อในอำเภอได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ และลดความเสี่ยงในการนำโรคแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น ทั้งนี้ทุนที่ได้จากการบริจาคจะนำไปจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือที่ขาดแคลนดูแลบุคลากร สนับสนุนกิจกรรมที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน เป็นต้น สามารถบริจาคสมทบทุนได้ที่บัญชีมูลนิธิแพทย์ชนบท ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 340-201715-6 และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ruraldoctor.or.th/projects/fund-covid19
กองทุนนวัตกรรมเพื่อวิจัยในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์
ในการรักษาไวรัสโควิด -19 และไวรัสอื่นๆ ในอนาคต
วิกฤตโควิด-19 ทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากมาย อุปกรณ์ที่ไว้ป้องกันมีราคาสูงมาก ทำให้โรงพยาบาลและผู้ป่วยไม่สามารถที่จะซื้อได้อย่างพอเพียง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยมีแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ หรือ บุคลากรที่มีความสามารถในการใช้นวัตกรรมต่างๆ สร้างเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านี้ แต่การที่จะเริ่มวิจัยเทคโนโลยีการแพทย์ ต้องอาศัยเงินทุนในการริเริ่ม ซึ่งกองทุนนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ประเทศไทย ได้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการแพทย์ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 และตัวอื่นๆ ในอนาคต โดยกองทุนนี้จะให้การสนับสนุนจำนวน 5 โครงการๆ ละไม่เกิน 200,000 บาท เพื่อเป็นเงินทุนเริ่มต้นในค้นคว้าและวิจัย สามารถช่วยเหลือทุนสนับสนุนโครงการได้ที่ https://taejai.com/th/d/medtechcovidfund/
ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/883159
ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อน
โครงการ อาสาเยี่ยม โดยมูลนิธิกระจกเงา
มูลนิธิกระจกเงาพร้อมช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากวิกฤตเศรษฐกิจโควิด-19 โดยการส่งมอบ “กล่องแบ่งปัน” จากผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งภายในบรรจุด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็นสำหรับ 1 ครอบครัว ซึ่งมูลนิธิกระจกเงาจะส่งต่อไปยังผู้เดือดร้อนที่ลงทะเบียน ผ่านโครงการอาสามาเยี่ยม เพื่อให้ถึงมือผู้เดือดร้อนทั่วประเทศ โดยสามารถบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง นมเด็ก และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ได้ที่มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7 แขวงบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 หรือสมทบทุนเข้าบัญชีกองทุนอาสามาเยี่ยม ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 202-258297-5 (ใบเสร็จยังไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: มูลนิธิกระจกเงา หรือหากต้องการเป็นพาร์ทเนอร์จัดทำกล่องแบ่งปัน ติดต่อทาง Line ID : @mirror_org
โครงการ “ช่วยเหลือคนกลุ่มเสี่ยงทั่วไทย” โดย COVID Thailand AID
COVID Thailand AID คือกลุ่มอาสาสมัครกว่า 300 คนที่มีเป้าหมายในการช่วยเหลือคนกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ครอบครัวที่มีรายได้น้อย และคนไร้บ้าน ฯลฯ ซึ่งโครงการนี้ ตั้งเป้ายอดบริจาคไว้ที่ 3,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือคนกลุ่มเสี่ยง 30,000 คน นอกจากนั้นยังเปิดให้ผู้ปรารถนาดีเสนอชื่อผู้อาวุโสหรือผู้พิการที่มีความเสี่ยงสูง หรือคนที่คิดว่าต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษได้ทาง covidthailandaid.com/nominate ซึ่งทางทีมงานจะจับคู่อาสาสมัครในพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบและช่วยเหลือต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถร่วมบริจาคและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ covidthailandaid.com
ช่วยเหลือการศึกษา
“50 บาท ส่งน้องเรียน” โดย มูลนิธิ ยุวพัฒน์
ทุกคนที่มีโอกาสได้เรียนสามารถส่งต่อโอกาสให้เด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ได้กลับไปเรียน ด้วยการบริจาคเงิน 50 บาท และชวนเพื่อนมาช่วยปลดล็อคการศึกษาของน้องๆ ด้วยกัน เงินบริจาคทั้งหมด คือ ทุนสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการกลับไปเรียนของน้องๆ ในช่วงเปิดเทอม ทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายโรงเรียน ค่ารถโดยสาร ค่าอาหารกลางวัน แต่ละวันไม่ต่ำกว่า 50 บาท ร่วมบริจาคได้ที่ บัญชีมูลนิธิยุวพัฒน์ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 095-2-15120-7 และสอบถามเพิ่มเติมที่ https://www.yuvabadhanafoundation.org/th/home/
โครงการเทอร์โมสแกนให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 220 โรงทั่วประเทศนั้น ได้เปิดเทอมแล้วตั้งแต่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะเด็กในโรงเรียนบางส่วนฐานะทางบ้านยากจน จำเป็นต้องพึ่งพิงอาหารกลางวันในโรงเรียน และไม่มีอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ที่บ้าน โครงการศูนย์เรียนรู้ต้นแบบโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส จึงร่วมกับ มูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ และเทใจจัดทำ “โครงการเทอร์โมสแกนให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” เพื่อซื้อเครื่องเทอร์โมสแกนชนิดยิงหน้าผากเพื่อเป็นอุปกรณ์วัดไข้ช่วยคัดกรอง และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับเด็กๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 220 เครื่อง สำหรับ 220 โรงเรียน ราคาเฉลี่ยเครื่องละ 1,350 บาท เป้าหมายระดมทุน 326,700 บาท มาช่วยกันปกป้องเด็กๆ และเยาวชนให้ได้รับการป้องกันดูแลด้วยระบบคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นกับโครงการนี้ ติดตามรายละเอียดที่ https://bit.ly/3dXzjq1 หรืออินสตาแกรม https://bit.ly/2LCKBnH
ช่วยเหลือสินค้าชุมชน
ชุมชนชวนช้อป โดย มูลนิธิเอสซีจี
ตลาดนัดชุมชนออนไลน์บนแพลตฟอร์มเฟสบุค ที่เปิดโอกาสให้คนซื้อและคนขายมาเจอกัน โดยคนขาย(ชุมชน) นำสินค้าของดีของเด็ดจากชุมชนในพื้นที่ของตนซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะ มาแบ่งปันให้กับเพื่อนผู้ซื้อ ที่อยากอุดหนุนสินค้าคุณภาพ สามารถเข้าร่วมกลุ่มได้ที่ www.facebook.com/groups/189454128831939/
ช่วยเหลือสัตว์
โครงการ อาหารให้ช้างแก่ ช้างพิการ ที่ประสบภัยโควิด-19
ช้างแก่และพิการ 50 เชือกที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมดูแล ส่วนใหญ่ล้วนผ่านการทารุณกรรมมาแทบทั้งสิ้น ช้างแก่ต้องได้รับการดูแลเรื่องอาหารเป็นพิเศษ เพราะช้างแก่ส่วนใหญ่จะไม่มีฟัน หรือระบบการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ จำเป็นต้องให้อาหารพิเศษ เช่น ข้าวปั้นที่มีส่วนผสม ของข้าวและกล้วย หญ้าก็ต้องผ่านการโม่บด ผลไม้ที่ให้ช้างแก่กินต้องย่อยง่าย ค่าอาหารช้างแก่ต่อวันจะตกอยู่ที่ 1,000 บาท วิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้บริจาคหลักขาดรายได้ ไม่มีเงินมาบริจาค จนไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอ มูลนิธิฯ ขอชวนทุกท่านมาร่วมบริจาคค่าอาหารช้างได้ที่ https://taejai.com/th/d/foodforsaveelephant/