ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับสงครามโรคระบาดที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าหมื่นคนต่อวัน เตียงสำหรับรองรับผู้ป่วย ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนจึงไม่เพียงพอจนต้องเพิ่มโรงพยาบาลสนาม ถึงแม้ว่าจะขยายโรงพยาบาลสนามและมีเครื่องช่วยหายใจที่เพียงพอ แต่จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเปรียบเสมือนนักรบด่านหน้าที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคระบาดไม่สามารถขยายเพิ่มได้ อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำงานหนักกันอยู่ทุกวันนี้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงต่อการสัมผัสกับเชื้อ ทำงานภายใต้ภาวะความกดดันที่บีบคั้นทางใจและมีความรู้สึกเหนื่อยล้า หากบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจะยิ่งทำให้อัตรากำลังนักรบด่านหน้าลดลงทันที ดังนั้นการมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเป็นเกราะป้องกันให้เหล่านักรบ ด่านหน้ามีความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ห้องเอกซเรย์ หัวใจหลักในการวินิจฉัย เพื่อรักษาผู้ป้วยโควิด-19
โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน หนึ่งในโรงพยาบาลสนามที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวและสีเหลือง จำนวน 700 เตียง ในแต่ละวันต้องรับผู้ป่วยกว่า 200 ราย โดยแต่ละรายต้องเอกซเรย์ปอดประมาณ 3-4 ครั้ง และบางรายมีอาการปอดอักเสบจะต้องเอกซเรย์มากกว่านั้น ซึ่งหากพบว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบก็สามารถให้ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ทำให้ผู้ป่วยหายได้เร็วมากขึ้น ดังนั้นการเอกซเรย์ปอดจึงมีความสำคัญในการวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลงและรีบให้การรักษาได้ทันท่วงที
แต่ด้วยข้อจำกัดของตู้เอกซเรย์ปอดของโรงพยาบาลฯ ที่เป็นเพียงตู้กระจกใสตู้ที่ผู้ป่วยจะต้องเข้าไปยืนแล้วใช้เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ในตู้ นอกจากความไม่สะดวกสบายของผู้ป่วยที่ต้องเข้าไปเอกซเรย์แล้วเจ้าหน้าที่ก็ต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง ด้วยความห่วงใยและเพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นนักรบด่านหน้าให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัยในการวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบของผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 มูลนิธิเอสซีจีจึงมอบห้องเอกซเรย์โมดูลาร์ มูลค่า 2 ล้านบาท ห้องแรกของประเทศไทย ให้กับโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เพื่อเป็น เกราะป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย
นวัตกรรม ที่ตอบโจทย์บุคลากรทางการแพทย์
ห้องเอกซเรย์โมดูลาร์ (Modular X-Ray Unit) เป็นนวัตกรรมแรกของไทยที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ โดยทีม Living solution SCG ก่อสร้างในโรงงานและสามารถนำมาประกอบบริเวณหน้างานได้อย่างมีมาตรฐานซึ่งใช้เวลาติดตั้งหน้างานเพียง 7 วัน โดยห้องดังกล่าวถูกจัดการอากาศให้มีความดันลบ (Negative Pressure Room)ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศและป้องกันอากาศรั่วไหล ถูกจัดการอากาศให้เหมาะสมก่อนปล่อยสู่ภายนอกเพื่อลดการกระจายของเชื้อไวรัส สร้างความปลอดภัยและมั่นใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และคนไข้ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงโดยพื้นที่การใช้งานห้องเอกซเรย์โมดูลาร์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
- Control room สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เป็นพื้นที่การปฏิบัติเพื่อควบคุมเครื่อง X-ray มีผนังกันรังสีกั้นเพื่อความปลอดภัย สื่อสารกับคนไข้ผ่านระบบสื่อสาร
- X-ray room สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ภายในติดตั้งเครื่อง X-ray รองรับการเชื่อมต่อระบบไอทีเข้าสู่ส่วนกลางของโรงพยาบาล
ทั้งนี้วัสดุต่าง ๆ เช่น ผนัง กระจก และประตู ออกแบบมาเพื่อป้องกันรังสีเอกซเรย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านรังสี
ด้วยเช่นกัน
เกราะป้องกัน นักรบด่านหน้าต่อสู้โควิด-19
ห้องเอกซเรย์โมดูลาร์แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน แยกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสำหรับผู้ป่วยติดเชื้ออย่างเป็นสัดส่วนห้องสำหรับบุคลากรและเจ้าหน้าที่นั้นติดเครื่องปรับอากาศ มีผนังทึบ สะดวกสบาย ลดการสัมผัส ลดการใส่ชุด PPE ส่วนห้องเอกซเรย์สำหรับผู้ป่วยสามารถให้ผู้ป่วยเดินเข้าไปเอกซเรย์โดยเจ้าหน้าที่สามารถสั่งงานได้ผ่านเสียงไม่ต้องเข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งสามารถรองรับผู้ป่วยได้กว่า 200 คน ต่อวันช่วยให้การตรวจรวดเร็วและแม่นยำขึ้น ห้องเอกซเรย์โมดูลาร์จึงเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเป็นทั้งอาวุธและเกราะกำบังเพื่อนักรบด่านหน้ารับมือกับการระบาดของโควิด-19
“ห้องเอกซเรย์นี้ เปรียบเสมือนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้เราใช้ต่อสู้ในสงครามโรคระบาด พอเรามีอาวุธมีเกราะมาช่วยเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโรคพวกเราก็รู้สึกปลอดภัย มันทำให้รู้สึกว่าเรากลับบ้านได้ เราสามารถกลับไปหาลูกเราได้โดยที่เราสบายใจแล้วกลับมาทำงานได้ เรามีขวัญและกำลังในการทำงานมากขึ้นค่ะ” เจ้าหน้าที่เอกซเรย์โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน กล่าว
มูลนิธิเอสซีจียังคงเป็นกำลังใจและแรงสนับสนุนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และคนไทยด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ของเอสซีจี และหากทุกคนให้ความร่วมมือกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและรวมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันก็จะเป็นเสมือนแสงสว่างดวงเล็ก ๆ หลายดวงที่รวมกันนำพาให้เราผ่านพ้นสงครามโรคระบาดครั้งนี้ไปได้