จากการที่ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเกิดจากความร่วมมือของคนไทยและทุกภาคส่วน นอกจากนี้ยังมีบุคลากรอีกหนึ่งกลุ่มสำคัญนั่นคือ อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการลงพื้นที่ค้นหากลุ่มเสี่ยงเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง รวมถึงให้ความรู้เรื่องสาธารณสุขต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญเช่นเดียวกับแพทย์และพยาบาล เพราะเป็นผู้เสียสละในการสู้ศึกกับโควิด-19 นับเป็นผลงานระดับโลกที่องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทยกล่าวชื่นชม
อสม. ซูเปอร์ฮีโร่ชุมชน
จากอุดมการณ์ ‘เชื่อมั่นในคุณค่าของคน’ และ ‘ถือมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม’ ได้นำมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานของมูลนิธิเอสซีจี ด้วยตระหนักว่าสังคมจะเข้มแข็งอย่างยั่งยืนได้ ต้องเริ่มจากทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ คือต้องเป็นทั้ง ‘คนเก่งและดี’ ซึ่ง อสม. เป็นกลุ่มบุคคลตัวอย่างที่บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมมาอย่างยาวนาน เสียสละและทุ่มเทปกป้องชุมชน อย่างไม่ย่อท้อ
เพื่อช่วยให้เหล่าฮีโร่หัวใจอาสาได้ ทำหน้าที่ของพวกเขาได้อย่างเต็มที่มูลนิธิเอสซีจี จึงส่งต่อความห่วยใยด้วย “อสม.Kit” 600 ชุด เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานและดูแลระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วย เครื่องวัดอุณหภูมิ (Infrared Thermometer) แอลกอฮอล์ชนิดเจล สเปรย์แอลกอฮอล์ หน้ากากสะท้อนน้ำที่สามารถป้องกันละอองฝอย เสื้อกันฝน และถุงมือทางการแพทย์ โดยทั้งหมดถูกบรรจุในกระเป๋าที่พกพาได้อย่างคล่องตัว เหมาะต่อการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายผ่านเครือข่ายต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายนักพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ
บรรยากาศการบรรจุชุด อสม.Kit โดยพนักงาน SCG จิตอาสา
พร้อมลงพื้นที่ด้วยความมั่นใจ
นางสาวบุรดี สันหมุด, อสม.ชุมชนบ้านกลาง ม.1 ต.ปากพะยูน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง กล่าวว่า
“เมื่อได้รับชุดอุปกรณ์ อสม.Kit รู้สึกมีความความมั่นใจในการลงพื้นที่ตรวจมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพในการวัดและอ่านค่าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตัวกระเป๋าที่มีความแข็งแรงทนทาน กันน้ำได้ดี พกพาสะดวกเพราะบางครั้งต้องลงพื้นที่ตอนฝนตก ไปตามตลาดหรือมัสยิดเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อทำให้ทำงานได้คล่องตัวมากจริงๆ ต้องขอขอบคุณทางมูลนิธิเอสซีจี ที่ทำให้พวกเราเหล่า อสม. มีความมั่นใจในการลงปฏิบัติหน้าที่ เราสัญญาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อคนไทยทุกคนค่ะ”