ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยทั้งภาครัฐและเอกชนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา และสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวานและโรคอ้วน รวมถึงกลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีความประสงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่าสุดระบบการจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 มีการปรับแผนใหม่โดยให้ชะลอการลงทะเบียนผ่าน LINE Official หมอพร้อมไว้ก่อน และให้แต่ละจังหวัดเริ่มดำเนินการเปิดแพลตฟอร์มให้ประชาชนในพื้นที่ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนแทน ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนกับระบบหมอพร้อมไว้แล้วให้เป็นไปตามนัดหมายเดิม โดยระบบยังคงทำหน้าที่ติดตามการฉีดเข็มที่ 1, 2 ติดตามการรายงานผลข้างเคียงจากการรับวัคซีน และออกใบรับรองการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร อายุตั้งแต่ 18-59 ปี และไม่ได้เป็นผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง สามารถลงทะเบียนได้ผ่าน3 ช่องทาง ดังนี้1. กลุ่มเข้าร่วมโครงการรัฐบาล อย่าง “เราชนะ” และ “คนละครึ่ง” สามารถลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านแอปฯ เป๋าตัง2. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com3. ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนผ่านร้านสะดวกซื้อ ได้แก่
มูลนิธิเอสซีจี ได้มอบ “แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ (Patient Isolation Capsule)” โดยพี่แป๊ด สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี ส่งมอบให้แก่ทีมจิตอาสา “องค์กรทำดี” โดยมี คุณบุ๋ม ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี เป็นตัวแทนรับมอบ ซึ่งทีมงานพร้อมจะนำไปใช้งานทันทีเพื่อเคลื่อนย้าย และรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพื่อให้จิตอาสาปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยต่อไป
มูลนิธิเอสซีจีส่งพลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง มอบนวัตกรรม ห้องแยกเชื้อความดันลบ 12 ห้อง มูลค่า 3 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลราชวิถี
โควิด-19 ระลอกใหม่ สายพันธุ์อังกฤษ กำลังระบาดหนักในไทย ซึ่งมาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง เนื่องด้วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อไม่แสดงอาการทำให้การแพร่ระบาดกระจายอย่างรวดเร็วเกิดซูเปอร์ สเปรดเดอร์ (Super Spreader) และติดเชื้อง่ายกว่าสายพันธุ์ปกติประมาณ 1.7 เท่า ซึ่งตอนนี้โควิดสายพันธุ์อังกฤษกำลังแพร่กระจายระบาดอยู่ในหลายประเทศ
มูลนิธิเอสซีจี มอบฉากกั้นสำหรับการฉีดวัคซีน ให้กับ รพ. ศิริราช โดยติดตั้งไว้ที่คณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID -19
มูลนิธิเอสซีจีได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Thai PBS จัดส่งอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อ ให้กับโรงพยาบาลสนามศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 (วัดสะพาน พระโขนง) เขตคลองเตย กทม. เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์คลองเตย
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในตอนนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มูลนิธิเอสซีจี จึงได้มอบ "ห้องป้องกันเชื้อความดันลบ (Negative Pressure Isolation Room)" ให้แก่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เพื่อใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
ดำเนินชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน แพท-นัดดา ทุพแหม่ง ต้นกล้าชุมชน รุ่นที่ 4 “โครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี สู้วิกฤต COVID-19 ของคนอยากอยู่บ้าน” แพท-นัดดา ทุพแหม่ง สาวสกลนครที่เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ สิบกว่าปีรู้สึกไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตในเมืองหลวงอีกต่อไป จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสกลนครเพื่อเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่หน้าบ้านควบคู่ไปกับการเลี้ยงไก่ไข่เป็นรายได้เสริม ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 คุณแพทไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากวิกฤตครั้งนี้เนื่องจากมีอาชีพทำกินที่บ้าน จึงมีรายได้เลี้ยงดูตัวเอง และในขณะเดียวกันคุณแพทได้ช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตให้พอลืมตาอ้าปากได้จากการเข้าร่วมโครงการ ‘ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดีสู้วิกฤต COVID-19 ของคนอยากอยู่บ้าน’ บ้าน คือ จุดเริ่มต้นของความรักและการแบ่งปัน บ้าน ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย บ้าน คือ ที่พักพิงจิตใจ มีความรัก ความอบอุ่นปลอดภัย และความผูกพันของคนในครอบครัวอยู่ในบ้านหลังนั้น แต่แล้ววันหนึ่งที่สมาชิกในบ้านพากันจากไป บ้านที่เป็นดังลมหายใจของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งก็มืดลงคุณแพทมีสมาชิกในบ้านคือ พ่อ แม่ และพี่ชาย พ่อของคุณแพทเสียชีวิตก่อนที่คุณแพทกลับไปอยู่บ้าน หลังจากนั้นได้ซักพักแม่และพี่ชายของคุณแพทก็เสียชีวิตไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้คุณแพทต้องอยู่คนเดียวจนเป็นโรคซึมเศร้า เคยคิดสั้นหลายครั้งกระทั่งครั้งล่าสุดคุณแพทเดินถือเชือกไปยังมุมของบ้านเพื่อที่จะจบชีวิตตัวเองตามครอบครัวไป มีกลุ่มเด็กแว้นในหมู่บ้าน ขับรถมอเตอร์ไซต์ผ่านไปมาส่งเสียงดังทำให้คุณแพทวางเชือกแล้วเดินออกมาหน้าบ้านตะโกนต่อว่าเด็กกลุ่มนั้นว่า“ไม่ทำตัวให้มีประโยชน์อะไรเลยเหรอ?” เด็กตะโกนสวนกลับมาว่า “ไม่รู้จะไปทำอะไร” คุณแพทจึงชวนเด็กแว้นกลุ่มนั้นไปล้างห้องน้ำวัด จากนั้นก็กลายเป็นการรวมกลุ่มเด็กเยาวชนในหมู่บ้านหลายสิบคนคุณแพทก่อตั้งเป็นกลุ่มเยาวชนจิตอาสาพาใจเฮ็ดบ้านแป้น ซึ่งนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณแพทคิดสั้นหลังจากนั้นไม่เคยมีความคิดแบบนั้นอีกเลย “จากบ้านที่เคยมีเสียงคนคุยกันกลับไม่มีใครเลยซักคน ช่วงนั้นลุกขึ้นมาร้องไห้ทุกคืนแบบคนไร้สติเลยค่ะ ความรู้สึกเหมือนหมาน้อยตัวหนึ่งที่เดินตากฝนมองหาใครไม่เจอ หิวข้าวก็หิว เลยคิดว่าไม่อยู่แล้วไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไมเพราะไม่มีใครเหลือแล้วพอมาถึงจุดนี้แล้วเรามองย้อนกลับไปต้องขอบคุณเด็ก
มูลนิธิเอสซีจี และเพื่อนพนักงานเอสซีจี ได้ส่งมอบ "แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบขนาดเล็กสำหรับเข้าเครื่อง CT SCAN" ให้ รพ.ค่ายธนะรัชต์ เรียบร้อยแล้ว
มูลนิธิเอสซีจี และ SCG North Chain ได้ส่งมอบห้องอาบน้ำจำนวน 12 ห้อง ซึ่งผลิตโดย Service Solution Unit - Modular Bathroom, SCG ให้โรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่