เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทย ได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ในการต่อสู้กับโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้มาจากนวัตกรรมที่มีชีวิตที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ อสม.หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านนั่นเอง ด้วยจำนวน อสม. กว่า 1,040,000 ชีวิต ที่แทรกซึมอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะห่างไกลแค่ไหน ยากลำบากเพียงใด จะมีมดงานเหล่านี้เข้าถึงทุกพื้นที่ เป็นด่านหน้าในการหาข่าวผู้มีความเสี่ยง เฝ้าระวัง ติดตาม รวมถึงให้ความรู้ด้านการป้องกัน ทำให้เกิดการควบคุมโรค สอดประสานกันอย่างเป็นระบบในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ดังนั้น อสม. จึงเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขไทย นักสู้ด้วยหัวใจ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะเป็นกลุ่มคนแรกที่เข้าไปช่วยเหลือ แม้เครื่องมือ อุปกรณ์ไม่ได้มีเท่าที่ต้องการ เราก็ทำด้วยของที่มี ทำด้วยความจริงใจ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องตรงนี้ พี่น้องปลื้มใจ เราก็ปลื้มใจ อยากทำแบบนี้ไปจนกว่าชีวิตของเราจะออกจากร่าง” อับดุลเลาะห์ มะเด – อสม. ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา จากการลงพื้นที่จริงของอับดุลเลาะห์ มะเด อสม. ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา ทำให้พบเจออุปสรรคต่างๆ ทั้งการเดินทางที่ยากลำบาก
หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 โดยอนุญาตให้เปิดกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง ฯลฯ ทำให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแบบวิถีไหม โดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน พกแอกอฮอล์เจล และเว้นระยะห่างในสังคม (Social Distancing) เมื่อรูปแบบวิถีชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนไปทำให้รูปแบบของ ธุรกิจ ร้านค้า และบริการด้านต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เช่น การคิดค้นรวมถึงพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ประชาชน หลายธุรกิจได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยรองรับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ของเราให้มีความปลอดภัยมากขึ้น มีตัวอย่างอะไรบ้างมาดูกัน หุ่นยนต์อัจฉริยะ หลังจากที่ห้างสรรพสินค้าได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ ห้างฯ หลายแห่งมีการออกมาตรการของตัวเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ และเป็นไปตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดระลอก 2 บางแห่งได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องการตรวจวัดอุณหภูมิ พ่นฉีด สเปรย์แอกอฮอล์ ทำความสะอาด ทำให้เพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยง ให้ประชาชนได้มาใช้บริการได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น หุ่นยนต์อัจฉริยะที่ช่วยคัดกรองความปลอดภัยของทุกคนก่อนเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้า ด้วยนวัตกรรมตรวจจับความร้อนและแจ้งเตือนที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก มีประสิทธิภาพความแม่นยำ สามารถแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีผู้อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส รวมทั้งติดตั้งเจลล้างมือฆ่าเชื้อแบบอัตโนมัติที่ด้านหลังหุ่นยนต์ด้วย นอกจากนี้หากลืมใส่หน้ากากอนามัยหุ่นยนต์อันเป็นสุดยอดนวัตกรรมยังสามารถช่วยเตือนได้อีกด้วย อ้างอิงhttps://travel.trueid.net/detail/vlXQKznOzAjphttps://www.therobotreport.com/coronavirus-response-growing-robotics-companies/ เดลิเวอรี โดรน เราอาจเคยได้ยินเรื่อง “โดรน” อากาศยานไร้คนขับที่สามารถบังคับได้จากระยะไกลกันมาบ้างแล้ว ในแง่ของการติดกล้องกับโดรนแล้วถ่ายในมุมสูงและกว้างทำให้ภาพหรือวิดีโอออกมาสวยงาม
เปิดหัวใจ อสม.บ้านน้ำตวง จ.น่าน ที่อุทิศตนทำงานอย่างเสียสละดูแลทุกคนในหมู่บ้านอย่างไม่ย่อท้อ โดยมูลนิธิเอสซีจีได้ส่งต่อความห่วงใยด้วยชุด อสม.Kits แด่นักรบด่านหน้าเพื่อปฏิบัติภารกิจเสี่ยงที่ต้องต่อสู้กับไวรัสโควิด 19 เราขอชื่นชมและเป็นกำลังใจ
ร่วมมอบสเปรย์แอลกอฮอล์ 15,000 ขวด ให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และรายการเรื่องเด่นเย็นนี้และสถานีวิทยุครอบครัวข่าว
มูลนิธิเอสซีจี โดยคุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี พร้อมด้วยคุณเชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี คุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี และ ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ดูแลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เปิดหัวใจ อสม. จิตอาสา หัวใจแกร่ง ฮีโร่ของชุมชน กับภารกิจช่วยประเทศชาติหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีทั้งความเสี่ยง ความเหนื่อย แต่ทุกคนไม่เคยย่อท้อ ยังทำทุกอย่างด้วยหัวใจที่หาญกล้าและเสียสละ ขอยกย่อง ชื่นชม และเป็นกำลังใจให้กับ อสม.ทุกท่าน
โอกาสในวิกฤต มองชีวิตในมุมบวก เอก อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ช่างภาพอิสระ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 หลายชีวิตต้องเผชิญปัญหาจากการตกงาน ขาดรายได้ ชีวิตถึงจุดเปลี่ยนแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นวิกฤตที่ทำให้สภาพสังคมที่เราคุ้นเคยเปลี่ยนแปลงไป การใช้ชีวิตจึงยากลำบากมากขึ้น ในขณะที่หลายๆ คนไม่มีแรงจะสู้ต่อ หลายๆ คนรู้สึกท้อถอย กลับมีคนตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่คิดจะยอมแพ้ ไม่คิดจะหันหลังให้กับอุปสรรคตรงหน้า เขามองแค่ว่าถ้าเขาเข้มแข็งและมองหาโอกาสในวิกฤต อย่างน้อยตัวเขาเองและคนรอบข้างคงพอจะมีความหวัง เพราะเขาเชื่อว่าพลังที่ดีที่สุดในยามนี้คือพลังบวกนั่นเอง ไม่หยุดความคิด พิชิตโอกาสรอบตัว สถานการณ์ชีวิตของคนตัวเล็กแต่ใจสู้กับวิกฤตครั้งนี้ของ ช่างภาพหนุ่ม เอก อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา คงไม่ต่างจากคนอื่นมากนัก อาชีพช่างภาพเป็นอาชีพแรกๆ ที่ไม่มีงานหมุนเวียนเข้ามาในช่วงวิกฤตโควิด-19 และเป็นเวลาเกือบสองเดือน ที่แทบไม่มีงานให้ถ่ายทำ แต่เอก ก็ไม่ได้ใช้ช่วงเวลานี้หมดเปลืองไปเฉยๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เขาได้มองไปรอบตัว ได้อยู่กับตัวเองและครุ่นคิดว่าสิ่งใดบ้างที่เขาจะทำได้ สิ่งใดบ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและครอบครัวที่สุด เอกค้นพบว่าคุณย่าของเขามีสูตรอาหารโบราณแบบฉบับชาววัง ที่เขาเคยกิน แต่คุณย่าไม่ได้ทำบ่อยนัก เขาคิดว่าสูตรอาหารพวกนี้ น่าจะถูกส่งต่อให้คนอื่นได้ชิมในช่วงโควิดบ้าง เขาเลยบอกคุณย่าว่า งั้นมาทำอาหารขายกันเถอะ คนจะได้กินอาหารสูตรชาววังอร่อยๆ เพราะอย่างน้อยของอร่อยก็คงทำให้คนกินยิ้มได้ “ในช่วงโควิดผมในฐานะช่างภาพอิสระ ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน แต่ผมก็ลุกขึ้นสู้ด้วยการทำอาหารขายทางออนไลน์
ในการรับมือกับโควิด-19 ชื่อของ อสม.อาจไม่ใช่ชื่อลำดับต้นๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง และจดจำ แต่ในความเป็นจริง บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ที่ทำงานด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ เฝ้าระวังการแพร่ระบาด ดูแลทุกคนในชุมชนเหมือนคนในครอบครัว ถือเป็นนวัตกรรมดักจับไวรัสที่ทรงประสิทธิภาพ และมีส่วนสำคัญในความสำเร็จในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ในฐานะผู้ปิดทองหลังพระ ขอส่งกำลังใจ ความห่วงใย และคำขอบคุณมอบให้ อสม.ทุกคนในทุกพื้นที่
การแพร่เชื้อขั้นรุนแรงของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลกในวงกว้าง และเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้เกิดการ disruption ขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงทำให้ตลอดระยะเวลาหลายเดือน ที่ผ่านมา เราเริ่มคุ้นชินกับกิจวัตรและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “New Normal” กันมากขึ้น โดยขอยกตัวอย่างวิถีชีวิตใหม่ ดังนี้
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 5 เดือน ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกในทุกมิติ รวมถึงบรรดาสัตว์ ต่างๆ อีกด้วย การมีจิตสาธารณะหยิบยื่นความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ เป็นการแบ่งเบาความทุกข์ยากของผู้ที่กำลังประสบปัญหาได้อีกหนึ่งหนทางหนึ่ง โดยการให้ความช่วยเหลือสังคมนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ มูลนิธิเอสซีจีจึงขอเป็น สะพานบุญ สะพานใจ นำตัวอย่างของการช่วยเหลือแบ่งปันให้กับสังคมในช่วงโควิด-19 ที่มีความน่าเชื่อถือ หลากหลายโครงการ ภายใต้รูปแบบการออนไลน์ที่ปลอดภัยตามหลักการของ Social Distancing มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อท่านใดจะสนใจร่วมออกแรงกาย แรงใจ หรือ กำลังทรัพย์ ตามความถนัดหรือความสะดวกของแต่ละคน ช่วยเหลือการแพทย์และสาธารณสุข กองทุนพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน และ รพ.สต. สู้ภัยโรคอุบัติใหม่ โควิด-19 กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นโดย มูลนิธิแพทย์ชนบท ที่อาสาเป็นองค์กรกลางในการระดมความช่วยเหลือแก่โรงพยาบาลชุมชนกว่า 778 แห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาลชุมชนเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการควบคุมโรคโควิด โดยช่วยให้ผู้ติดเชื้อในอำเภอได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ และลดความเสี่ยงในการนำโรคแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น ทั้งนี้ทุนที่ได้จากการบริจาคจะนำไปจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือที่ขาดแคลนดูแลบุคลากร สนับสนุนกิจกรรมที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน เป็นต้น สามารถบริจาคสมทบทุนได้ที่บัญชีมูลนิธิแพทย์ชนบท ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 340-201715-6 และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ruraldoctor.or.th/projects/fund-covid19 กองทุนนวัตกรรมเพื่อวิจัยในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาไวรัสโควิด -19 และไวรัสอื่นๆ ในอนาคต