Skip to content

กฤษตนัย มั่นคง (เก่ง)

เด็กเก่ง หัวใจแกร่ง ผู้ไม่เคยย่อท้อต่อความยากจน

ในครอบครัวของเก่งอยู่ด้วยกัน 4 คน มีพ่อ แม่ น้องชายและเก่ง ปัจจุบันครอบครัวเก่งต้องพักอาศัยร่วมกันในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ที่ จ.สุพรรณบุรี เพราะตั้งแต่สมัยอาศัยอยู่เมืองกาญฯ จนย้ายมา ครอบครัวเก่งยังไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองเลย พ่อของเก่งมีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ รับซ่อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงรับซ่อมเครื่องมือทำสวน เช่น เครื่องตัดหญ้า เครื่องพ่นยา รายได้ครั้งละ 200-500 บาท แต่ก็ไม่ได้มีลูกค้ามาให้ซ่อมทุกวัน รายได้จึงไม่แน่นอน

ส่วนแม่รับหน้าที่ดูแลบ้าน คอยช่วยพ่อทำงานซ่อมบ้าง และเวลาว่างก็รับจ้างซ่อมผ้า รับผ้าจากชาวบ้านแถวนั้นมาเย็บ แต่ก็ไม่บ่อยนักที่จะมีคนมาว่าจ้าง ทำให้รายได้ของทั้งครอบครัวไม่เพียงพอกับรายจ่าย ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร เงินติดกระเป๋าไปโรงเรียนของเก่งและน้องชายอีก พ่อจึงไปเช่าสวนมะม่วงจากเจ้าของเดิมที่เขาไม่ได้ทำแล้วมาทำต่อ ตกลงจ่ายค่าเช่าสวนปีละ 12,000 บาท โดยพ่อแม่เป็นกำลังหลักในการดูแลสวนมะม่วง และมีเก่งกับน้องคอยช่วย การดูแลสวนมะม่วงครอบครัวของเก่งทำกันเอง เนื่องจากไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจ้างลูกจ้าง พอถึงฤดูมะม่วงทั้งครอบครัวก็ช่วยกันเก็บมะม่วงจากสวนทุกวัน โดยพ่อและแม่จะนำไปขายที่ตลาดนัด ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ก็ยังไม่มากพอสำหรับทั้ง 4 ชีวิต ครอบครัวเราจึงต้องประหยัดทุกทางเท่าที่จะทำได้

เมื่อไรที่ท้อ ให้มองกระจกแล้วกอดตัวเองแน่น ๆ พูดเบา ๆ ว่า เก่งมากแล้วนะ เพื่อสร้างพลังในการลุกขึ้นสู้ต่อ

ตอนนี้เก่งกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย ชั้น ม. 5 ซึ่งผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเก่งมีเป้าหมายในการเรียนว่าจะพยายามรักษาผลการเรียน และพัฒนาตัวเองให้ได้เกรดดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน อาทิ เป็นเยาวชนจิตอาสาพัฒนากรรณสูต (ศิษย์ดี) ได้รับรางวัลชมเชยจากการเข้าร่วมแข่งขันการเเต่งคำประพันธ์ของสมาคมกลอนแห่งประเทศไทย

“เวลาเรียนผมก็จะตั้งใจเรียน เมื่อกลับถึงบ้านก็จะรีบทำการบ้านให้เสร็จ แล้วก็จะช่วยทำงานบ้าน เช่น หุงข้าว ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำกับข้าวบ้างบางครั้ง ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ก็จะทำของไปขาย อย่างช่วงวันลอยกระทงก็ทำกระทงไปขาย หรือพอมีรายได้จากเงินรางวัลในการแข่งขัน ก็จะนำเงินบางส่วนมาใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เงินที่เหลือก็พยายามอดออมเก็บไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น”

เก่งมีความฝันว่าอยากเป็นครู เพราะว่าน่าจะตรงกับความถนัดของเขาที่ชอบถ่ายทอดองค์ความรู้ และมุ่งมั่นในการสร้างลูกศิษย์ให้เป็นคนเก่ง เป็นคนดี เพื่อสร้างคนคุณภาพให้กับสังคม ในอนาคตเก่งอยากมีเงินเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ ถึงแม้ว่าข้าราชการครูจะมีเงินเดือนน้อย แต่ก็ยังมีสวัสดิการในการดูแลทุกคนในครอบครัว แล้วถ้าเขาขยันมากขึ้นก็สามารถทำอาชีพเสริมได้ เก่งอยากมีอาชีพที่มั่นคง มีบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องร่ำรวยก็ได้ แค่มีเงินพอกินพอใช้ก็พอแล้ว

“ครอบครัวเรากับข้าวที่กินในแต่ละวันส่วนมากจะเป็นไข่ เพราะราคาไม่แพง ทอดใบเดียวกินได้หลายคน แต่ผมกับน้องชอบกินข้าวมันไก่มาก แต่ละเดือนพ่อจะพาผมกับน้องไปกินข้าวมันไก่สักครั้ง เราไม่สามารถกินได้บ่อย ๆ เพราะมันแพง จานนึงก็ราคา 35-40 บาทแล้ว บ้านเรามีกัน 4 คน ไปครั้งนึงก็ร้อยกว่าบาท ผมจึงอยากเรียนสูง ๆ เรียนจบไว ๆ เพื่อมีอาชีพที่ดี มีบ้านหลังไม่ต้องใหญ่มากให้พ่อแม่และน้องอยู่สบาย ไม่ต้องเสียค่าเช่าเหมือนทุกวันนี้ อยากกินอะไรก็ได้กิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ”

สุดท้ายเก่งจึงอยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ไม่ว่าจะเป็นความยากจน การเรียน หรือสุขภาพ ขอให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง และอดทน โดยเก่งได้หลักในการสู้ชีวิตมาจากพ่อแม่ที่ให้ดูเป็นแบบอย่าง เวลาเหนื่อย เวลาท้อ เขาจะกลับมามองท่านทั้งสอง แล้วบอกกับตัวเองว่าท้อไม่ได้ เราต้องทำให้ครอบครัวมีความสุข พ่อแม่สบาย ก็ทำให้มีกำลังใจฮึดสู้อีกครั้ง

อยากบอกทุกคนนะครับ เมื่อไรที่เราท้อ ให้มองตัวเองในกระจก แล้วกอดตัวเองแน่น ๆ พูดกับตัวเองเบา ๆ ว่า เก่งมากแล้วนะ เพื่อสร้างพลังแล้วลุกขึ้นสู้ต่อ เพื่อตนเอง และครอบครัว ให้มีวันที่ดี มีอนาคตที่สดใส และมีความสุขรอเราอยู่

เรื่องราวนักเรียนทุนคนอื่น ๆ