ขยายแนวคิด LEARN to EARN เสริมทักษะ บ่มเพาะนักพัฒนาชุมชนคนรุ่นใหม่ ให้มีความพร้อม เรียนรู้ เพื่ออยู่รอดได้ในชุมชน

มูลนิธิเอสซีจี จัดกิจกรรมงานปฐมนิเทศ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้กับต้นกล้าชุมชน 6-7 โดย มูลนิธิเอสซีจี

พร้อมด้วยพี่เลี้ยง โดยมี คุณยุทธนา เจียมตระการ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี  และคุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี พร้อมทีมมูลนิธิฯ ให้การต้อนรับ  โดย คุณยุทธนาได้กล่าวทักทาย และเล่าถึงความสำคัญของแนวคิด LEARN To EARN เรียนรู้เพื่ออยู่รอด

.

กิจกรรมประกอบไปด้วยการเติมความรู้ เสริมทักษะจากผู้เชียวชาญในด้านต่างๆ เช่น หัวข้อ“การสื่อสารงานพัฒนาชุมชนผ่าน Storytelling”  โดย รศ.ดร.สุกัญญา สมไพบูลย์ ผู้รักษาการรองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยากรด้านการสื่อสารแถวหน้าของประเทศ และหัวข้อ “เรียนรู้จากผู้ประกอบการตัวจริงที่ประสบความสำเร็จ “โดย ธนิต พุ่มไสว ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ CEO เจ้าของแบรนด์ ภูษาผ้าลายอย่าง และคุณศิวกร เกษรราช ที่ปรึกษาการตลาดและสื่อสารองค์กร  ผู้อยู่เบื้องหลังความงามของผืนผ้าในละครดัง และเบื้องหลังความสง่างามของชุดไทยบนเวที Miss Universe Thailand มาถอดบทเรียนการเรียนรู้การทำธุรกิจด้วยตัวเองจนประสบความสำเร็จ และยังได้รับเกียรติจากพี่ๆ นักพัฒนาชุมชนที่มากด้วยประสบการณ์ อาทิ พี่นก ภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิอันดามัน พี่แฟ๊บ บุบผาทิพย์ แช่มนิล ผู้ก่อตั้งกลุ่มรักษ์เขาชะเมา พี่สำรวย ผัดผล ประธานศูนย์การเรียนรู้โจ้โก้ และต้นกล้าเคม ณัชพล พรมคำ ต้นกล้าชุมชนรุ่นที่ 3 ร่วมให้คำแนะนำการดำเนินโครงการแก่น้องๆ อย่างรอบด้าน เพื่อเสริมทักษะด้านการสื่อสาร การสร้างแบรนด์ การตลาดและการดำเนินโครงการ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเอง ต่อยอดผลิตภัณฑ์ และเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ

ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการให้ Commitment จากต้นกล้าชุมชนว่าหลังจากนี้เป็นเวลา 1 ปี พวกเขาจะทุ่มเททำงาน เรียนรู้ อยู่ร่วม และอยู่รอดได้ในชุมชน พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างโอกาสที่ดีให้ชุมชนต่อไป มูลนิธิฯ ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ต้นกล้าชุมชนทุกคนได้กลับไปหยั่งรากและเติบโตอย่างงดงามในบ้านเกิดของตนเอง และผลิดอก ออกผล เป็นไม้ใหญ่ที่ยังประโยชน์ให้ชุมชนต่อไป

LEARN TO EARN เรียนรู้เพื่ออยู่รอด เป็นแนวคิดที่มูลนิธิเอสซีจีเชื่อว่าทุกคนมีคุณค่าและศักยภาพในตัวเองสามารถเผชิญโลกที่เปลี่ยนแปลง โดยใช้การเรียนรู้ตลอดชีวิตนำทางเพื่ออยู่รอดอย่างยั่งยืน มุ่งจุดประกายให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ตลอดจนสังคมได้ เรียนรู้ ปรับตัว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันรูปแบบการศึกษาได้เปลี่ยนไป เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งการเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่คือการเรียนรู้แบบ Active learning ทั้งทักษะวิชาชีพ (Hard skills) และทักษะด้านอารมณ์ และการเข้าสังคม (Soft skills) หรือที่เรียกว่า ‘ทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21’ (Power Skill) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงานในยุคปัจจุบันและอนาคต ตามพันธกิจหลักของมูลนิธิฯ ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้าง ‘คน’ ให้เติบโตเป็นคน ‘เก่ง และ ‘ดี’ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ขับเคลื่อนแนวคิด Learn to Earn โดยเริ่มจากสนับสนุนทุนการศึกษา และพัฒนาศักยภาพเยาวชน รวมทั้งให้โอกาสเยาวชนได้สร้างอาชีพให้กับตนเองและชุมชนของตน เพื่อเรียนรู้เพื่ออยู่รอดได้ชุมชนอย่างยั่งยืนตามแนวคิด LEARN to EARN

#มูลนิธิเอสซีจี #LEARNtoEARN #ต้นกล้าชุมชน #เชื่อมั่นในคุณค่าของคน

“มูลนิธิเอสซีจี” เร่งเดินหน้าขยายแนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้ เพื่ออยู่รอด” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สร้าง Mindset การเรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นคนทุกเจน-ทุกวัย

“มูลนิธิเอสซีจี” เดินหน้าขยายแนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” เป็นปีที่ 3 หลังได้รับการตอบรับด้วยดี พร้อมเดินหน้าเตรียมจัดเสวนาใหญ่ หวังดันแนวคิดสู่คนทุกเจน-ทุกวัย ให้ทุกคนได้เข้าใจและให้ความสำคัญกับ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” และสามารถนำความรู้ที่มีไปต่อยอดเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการ มูลนิธิเอสซีจี เปิดเผยถึงแนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” ว่า จากการจุดประกายแนวคิดกับหลายภาคส่วนจนได้รับการผลักดันให้เป็นนโยบายสำคัญของทุกกระทรวงที่จะมีการเน้นย้ำถึงการพัฒนาศักยภาพของทุนมนุษย์ในทุกมิติ รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อเติมทักษะต่างๆ ให้กับคนทุกวัย ในมุมของมูลนิธิฯ เรามุ่งเน้นการสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่อการมีอาชีพ ตอบโจทย์ตลาดมีสัมมาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้ พร้อมพัฒนาศักยภาพให้กับนักเรียนทุน ตลอดจนเดินหน้าขยายแนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม เพื่อผลักดันให้การร่วมมือครั้งสำคัญของทุกภาคส่วนนี้ เป็นทางออกของประเทศไทยในการปรับตัวให้ก้าวทันโลกได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในปีนี้ มูลนิธิฯ เตรียมจัดงาน “Learn to Earn Talk เจนใหม่ ไม่หยุด Learn” ในวันที่ 12 กรกฎาคม นี้ ที่ Crystal design center โดยกลุ่มเป้าหมายจะครอบคลุมลงมาถึงกลุ่มคนที่เป็นภาคีเครือข่าย KOL ของแต่ละภาคส่วน ที่สามารถลงมือทำให้เห็นผลได้จริง ในการเรียนรู้ในมุมของตัวเอง ช่วยให้ภาครัฐ เอกชน การศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง ได้เห็นแนวคิดอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง  เพราะไม่ว่าจะเป็นคนเจนไหนวัยไหนก็จำเป็นต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาในการเพิ่มพูนทั้งทักษะวิชาชีพ (Hard skill) และทักษะชีวิต (Soft skill) เพื่อนำมาปรับใช้ในแต่ละสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ เป็นการเสริมและลับคมทักษะเพื่อให้อยู่รอดได้ในโลกยุคปัจจุบัน ที่มีบริบทแตกต่างไปจากโลกในอดีตอย่างสิ้นเชิง

สำหรับการจัดงาน Learn to Earn Talk นี้ จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Empowering Learn to Earn Mindset ปลุกพลัง สร้างมายด์เซต ‘เรียนรู้เพื่ออยู่รอด’  ที่จะมาร่วมกันสร้าง Mindset “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” ให้เกิดขึ้นในคนรุ่นใหม่อย่างไร และทำอย่างไรที่จะขยายแนวคิดนี้ไปสู่สังคมโดยรวม โดยมีวิทยากรจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และ Lifelong Education มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นตัวแทนจากภาครัฐ นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ CEO of The Standard ตัวแทนภาคสื่อมวลชน ผู้แทนจาก SCG ตัวแทนจากภาคเอกชน มาร่วมพูดคุยถึงความท้าทายในโลกอนาคตที่เด็กยุคนี้และยุคต่อๆ ไปต้องเผชิญ / ทำไมต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เพื่ออยู่รอด / ฝั่ง Demand ปรับตัวอย่างไรเพื่ออยู่รอด และฝั่ง Supply ปรับทักษะอย่างไรให้รอด / วิธีสร้าง Mindset เรียนรู้เพื่ออยู่รอดให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ / สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่ออยู่รอดต้องเริ่มอย่างไร พร้อมช่วงพิเศษร่วมพูดคุยกับ เปอร์สเปกทีฟ สุวิกรม อัมระนันทน์ พิธีกร นักสัมภาษณ์ และนักเรียนรู้ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จะมาบอกเล่าถึงการออกแบบความคิดให้ชีวิตไม่หยุด Learn การฝึกฝนวิธีคิดให้ตัวเองเป็นคนชอบเรียนรู้ พร้อมแชร์แนวทางในการวางแผนอนาคตเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในโลกที่การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ดำเนินการเสวนาโดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน และกล่าวเปิดงานโดย นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม ประธานกรรมการ มูลนิธิเอสซีจี

“เพราะการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในห้องเรียนสี่เหลี่ยม หรือจำกัดที่อายุคนเรียนอีกต่อไป แต่จะเป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกยุค ทุกสมัย เป็น Lifelong Learning เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ผู้เรียนรู้สามารถนำประสบการณ์ที่ได้รับนั้นมาพัฒนาตัวเอง เพื่อให้อยู่รอดได้ในโลกยุคปัจจุบัน Learn to Earn ปีที่ 3 นี้ จะขยายแนวคิดนี้ให้ครอบคลุมไปยังหน่วยงานในหลายๆ ภาคส่วนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้แนวคิดนี้ได้รับการเผยแพร่ออกไปในวงกว้างมากขึ้น นอกเหนือจากสถาบันการศึกษา ครู ผู้ปกครอง รวมถึงการมุ่งเน้นขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังคนทุกเจนทุกวัย เพราะทุกคนต้องมีความเสมอภาคในการเรียนรู้ที่ทำได้ตลอดชีวิต ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใครหรืออายุเท่าไร ก็สามารถเรียนรู้เพื่ออยู่รอดได้ในโลกปัจจุบันและอนาคต สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ และพร้อมส่งต่อโอกาสให้กับคนอื่นๆ ในสังคมต่อไปได้” สุวิมล กล่าวสรุป

ติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมโครงการ Learn to Earn ในปีที่ 3 และติดตามข้อมูลข่าวสารของมูลนิธิเอสซีจี ได้ที่ www.scgfoundation.org และเฟซบุ๊ก LEARNtoEARN

#LearntoEarn #เรียนรู้เพื่ออยู่รอด #มูลนิธิเอสซีจี