เยี่ยมวิทยาลัยเทคนิคโพธาราม จ.ราชบุรี และน้องๆ นักเรียนทุน Sharing the Dream

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ตรวจเยี่ยมวิทยาลัยเทคนิคโพธาราม ซึ่งเป็นสถานศึกษาภายใต้โครงการกองทุนการศึกษา ซึ่งมูลนิธิเอสซีจี ให้การสนับสนุนทุน Sharing the Dream แก่นักเรียนขาดแคลนในพื้นที่ชายขอบ จ. ราชบุรี เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนอาชีวะ สร้างทักษะอาชีพ อันจะนำไปสู่การเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ตามแนวคิด “Learn to earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” ซึ่งในโอกาสนี้ พี่ๆ มูลนิธิเอสซีจี ได้เยี่ยมพบปะน้องๆ นักเรียนทุนของเราด้วย

เริ่มแล้วที่แรก …“โรงเรียนต้องรอด” ที่ จ.สระบุรี

ร่วมติดตามโครงการดีๆ ที่มาจากความตั้งใจของพี่น้องชาวเอสซีจีที่มีจิตอาสา ซึ่งตั้งใจนำความรู้และประสบการณ์ที่มี มาร่วมแบ่งปันความรู้ และพัฒนาแนวความคิด ด้าน soft​ side ให้กับคุณครูโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม เพื่อทำให้ “โรงเรียนต้องรอด ” ในสถานการณ์เช่นปัจจุบันนี้ 

ขอขอบคุณในน้ำใจพี่น้องชาวเอสซีจี ที่ตั้งใจ ผลักดัน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

ส่งความห่วงใย ถึงผู้ประสบภัย ผ่านต้นกล้าชุมชน

มูลนิธิเอสซีจี ร่วมมือกับเครือข่าย​ ร่วมกันมอบถุงยังชีพให้พี่น้อง ชุมชนตำบลศิลา​ ที่ประสบน้ำท่วมจากน้ำป่าไหลหลากอย่างเฉียบพลัน ในพื้นที่​ ตำบลศิลา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอขอบคุณพี่ดิว เครือข่ายต้นกล้าชุมชน ที่เป็นสะพานบุญช่วยส่งต่อความห่วงใยจากเราไปถึงมือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว

“รางวัลคุณธรรม” พลังแห่งการร่วมกันต่อยอดความดี

มูลนิธิเอสซีจี โดยคุณภรัณยุ จุฑาสันติกุล ผู้ช่วยกรรมการและผู้จัดการอาวุโส รับมอบรางวัลคุณธรรม ประเภทจิตสาธารณะ จากคุณอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งจัดโดย ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และโอกาสนี้ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับ คุณประเชิญ คนเทศ เครือข่ายนักพัฒนาชุมชนมูลนิธิลุ่มน้ำท่าจีนนครปฐม และ​น้องโย -​ โยธิน บุญยงค์ รุ่นพี่นักเรียนทุนมูลนิธิเอสซีจี ที่ได้รับรางวัลคุณธรรม ประเภทบุคคล

ประสานความร่วมมือ ช่วยเหลือพี่น้องชาวเพชรบูรณ์

มูลนิธิเอสซีจี มอบข้าวสาร 1,000 กก. น้ำดื่ม 8,400 ขวด ไข่ไก่ 40 แพ็ค ให้โรงครัวอีจัน เพื่อปรุงอาหารสดใหม่ ให้พี่น้องชาวเพชรบูรณ์ที่ประสบภัยน้ำท่วม

โดยมีผู้แทนจำหน่ายวัฒนชัยหล่มสัก ช่วยสนับสนุนรถ 6 ล้อและไข่ไก่อีก 50 แพ็ค แม้ว่าตอนนี้น้ำจะเริ่มลดแล้ว แต่สภาพบ้านเรือนยังคงเสียหาย พี่น้องยังคงลำบากและเดือดร้อน บางครอบครัวไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ทั้งนี้หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยได้ช่วยนำรถมารับอาหารจากโรงครัวนี้ไปแจกจ่ายอย่างทั่วถึง

(ขอขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊คเพจอีจัน)

มูลนิธิเอสซีจีเปิดโอกาส รับคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างเป็นนักพัฒนาชุมชนรุ่นใหม่

มูลนิธิเอสซีจี ขอเชิญคนรุ่นใหม่หัวใจคืนถิ่นที่อายุ 22-35 ปี มีศักยภาพและความกล้ากลับมาพัฒนาบ้านเกิดให้มีความเข้มแข็งเข้าร่วมโครงการ “ต้นกล้าชุมชน รุ่นที่ 6” โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็น ‘ต้นกล้าชุมชน’ ต้องดำเนินโครงการตามที่ถนัดและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในชุมชน ภายใต้การดูแลและแนะนำจากพี่เลี้ยงที่เป็นนักพัฒนามืออาชีพในท้องถิ่น ตลอดจนเข้าร่วมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพตามที่มูลนิธิฯ กำหนด เพื่อฝึกฝนพัฒนาความรู้ ความสามารถพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสร้างงาน  สร้างอาชีพ พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และทุนทางวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่ออยู่รอดพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 30 กันยายน 2565

ประกาศผลคัดเลือกเดือน ตุลาคม 2565

รายละเอียดโครงการ คลิก

แบบฟอร์มใบรับสมัครต้นกล้าชุมชนรุ่นที่ 6 คลิก

ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ​มูลนิธิเขื่อนยันฮี​ อีก​ 1​ กัลยาณมิตร​การทำงานเพื่อสังคม

ตัวแทนคณะกรรมการเขื่อนยันฮี และผู้บริหารจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำโดย​ คุณฤดีมาส ปางพุฒิพงศ์ – กรรมการมูลนิธิฯ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานเพื่อสังคมในมิติต่างๆ กับมูลนิธิเอสซีจี สร้างโอกาสการทำงานและร่วมมือกันในอนาคต

มูลนิธิเอสซีจี และศิริราช เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงิน ผ่านโครงการ “เป๋าบุญ หนุนขา” เพื่อสมทบ “กองทุนกายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ”

มูลนิธิเอสซีจี × ศิริราช ผสานพลังเปิดโครงการ “เป๋าบุญ หนุนขา” ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการยากไร้ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อให้ได้รับอุปกรณ์อาทิ แขนเทียม ขาเทียม และการรักษาที่มีคุณภาพ

โดยผู้บริจาคจะได้รับกระเป๋ารักษ์โลก ที่ผลิตจากถุงปูนซีเมนต์ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเป็นของที่ระลึก (*) ทุก 500, 1,000, 2,000 บาท รับกระเป๋ารักษ์โลก 1 ใบแบบสุ่ม ตั้งแต่ 15 ส.ค. นี้ จนกว่าของที่ระลึกจะหมด 

ร่วมบริจาคได้ที่ :

– ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช และ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ชั้น G (ทุกวัน)

– บริจาคผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช หมายเลขบัญชี 016-3-00049-4 ชื่อบัญชี ศิริราชมูลนิธิ  (ระบุ “กองทุนกายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ” หรือ “กองทุน D3366” )

– บริจาคผ่าน Application ธนาคารที่ท่านมีบัญชีเงินฝาก โดยสแกนผ่าน QR CODE ตามโปสเตอร์ แล้วแจ้ง ชื่อ-สกุล หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ผ่านช่องทางLine : @sirirajfoundation หรือส่งE-mail มาที่ donate_siriraj@hotmail.com เพื่อจัดส่งเอกสารการบริจาคและ/หรือกระเป๋าแก่ท่านต่อไป

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ ตึกอำนวยการ ชั้น 1 โทร. 02 419 7646 – 8

#เป๋าบุญหนุนขา

#มูลนิธิเอสซีจี

#ศิริราช

#ศิริราชมูลนิธิ

มูลนิธิเอสซีจี ผสานพลังศิริราช เปิดโครงการ “เป๋าบุญ หนุนขา” ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการยากไร้ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

มูลนิธิเอสซีจี ร่วมกับศิริราช เปิดโครงการ “เป๋าบุญ หนุนขา” เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบ “กองทุนกายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ” ในศิริราชมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการที่ยากไร้และด้อยโอกาสให้ได้รับอุปกรณ์อาทิ แขนเทียม ขาเทียม และการรักษาที่มีคุณภาพ

ผู้บริจาคจะได้รับกระเป๋ารักษ์โลก ที่ผลิตจากถุงปูนซีเมนต์ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเป็นของที่ระลึก ซึ่งกระเป๋าดังกล่าวยังมากด้วยคุณค่าและความพิเศษในการช่วยสร้างโอกาสและพัฒนาทักษะอาชีพของกลุ่มคนไร้ที่พึ่ง
ที่ได้รับการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาร่วมสร้างสรรค์
เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่นรักษ์โลกตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) 

ผู้สนใจสามารถบริจาคได้ที่ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช  / รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ชั้น 2 โซน B  / บริจาคผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 0163000494 (กรุณาระบุ กองทุนกายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ หรือ กองทุน D3366) หรือบริจาคผ่าน Mobile Banking โดยสแกน QR Code  และติดต่อศิริราช โทร. 02 419 7646-8 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าของที่ระลึกจะหมด 

สอบถามข้อมูลได้ที่ งานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ ตึกอำนวยการ ชั้น 1 โทร. 02 419 7646 – 8

มูลนิธิเอสซีจี จับมือ GMMTV เปิดเวที “Young Survivors LEVEL UP” จัด Talk & Show ส่งท้ายรายการ “Young Survivors รุ่นนี้…ต้องรอด” ชวนเหล่า Gen Z ลงสนามจริง เรียนรู้ “ทักษะแห่งอนาคต” กับแก๊ง Young Survivors แบบครบทีม

“มูลนิธิเอสซีจี” ร่วมกับ GMMTV ชวนเหล่า Gen Z กว่า 200 คน ร่วมเวิร์คช็อปทักษะเอาตัวรอดในงาน Young Survivors LEVEL UP ขนแก๊ง “Young Survivors และเหล่า Master Class แบบครบทีมจัดเต็ม ร่วมจัดกิจกรรม Talk & Show นำทักษะแห่งยุคมาร่วมกันสร้างการรับรู้และความเข้าใจตามแนวคิด Learn to Earn  ผ่านภารกิจ Young Survivors รุ่นนี้ต้องรอด” ที่ออนแอร์มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 

คุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี เปิดเผยถึงแนวคิดการส่งเสริมให้คน Gen Z นำทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 หรือ Power Skill ไปประยุกต์ใช้เพื่อให้อยู่รอดได้ในโลกปัจจุบันว่า “มูลนิธิเอสซีจีเป็นองค์กรสาธารณกุศล ที่มุ่งเน้นในการพัฒนา ‘คน’ มาโดยตลอด ประกอบกับทุกวันนี้ โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมาของโควิด-19 ก็เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเพื่ออยู่รอด มูลนิธิเอสซีจีจึงเร่งผลักดันแนวคิด Learn to Earn  เรียนรู้เพื่ออยู่รอด โดยให้ทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนตามสภาวการณ์ปัจจุบัน ส่งเสริมให้เยาวชนเรียนเร็ว จบเร็ว มีงานเร็ว อีกทั้งมุ่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน ให้มีทักษะทั้ง Hard skill หรือ ทักษะความสามารถที่ใช้ในการทำงานในแต่ละสายอาชีพ และ Soft skill หรือ ทักษะด้านการเข้าสังคมและอารมณ์ เพราะโลกทุกวันนี้ คนเก่งไม่ได้หมายถึงต้องเรียนเก่งเป็นเลิศ หรือต้องได้เกรด 4.00 แต่หมายถึง คนเก่งที่ใช้ความรู้ความสามารถประกอบอาชีพได้ ทำมาหากินได้ ดูแลตัวเองและครอบครัว และมีการบริหารจัดการอารมณ์ได้ดี ทำงานเป็นทีม เข้ากับคนอื่นได้ และแบ่งปันให้สังคม  

นอกจากการมอบโอกาสทางการศึกษาแล้ว มูลนิธิฯ ยังมุ่งสร้างการรับรู้และชวนให้ตระหนักถึงรูปแบบการศึกษาที่เปลี่ยนไป ว่าโลกทุกวันนี้ทุกอย่างคือการเรียนรู้ และการศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน แต่หมายถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต มูลนิธิเอสซีจี จึงร่วมมือกับ GMMTV ผลิตรายการ Young Survivors รุ่นนี้ต้องรอด” นำทัพนักแสดงวัยรุ่น พร้อมด้วยเหล่า Master Class มากประสบการณ์ ผู้คร่ำหวอดในแต่ละวงการ มาปฏิบัติภารกิจการเอาตัวรอดผ่านการใช้ทักษะในด้านต่างๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคน Gen Z ได้พัฒนาตนเองด้วยทักษะแห่งยุค 

ด้านคุณสถาพร พานิชรักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด กล่าวเสริมถึงแนวคิดเรื่อง Learn to Earn ของมูลนิธิเอสซีจี ว่า “ในฐานะที่ GMMTV เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิต content ที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น และมีนักแสดงวัยรุ่นที่สามารถนำเสนอและถ่ายทอดข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z จึงได้ผลิตรายการที่มีเนื้อหาสาระและถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวเพื่อให้ผู้ที่รับชมรายการสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริง   ซึ่งรายการดังกล่าวได้ออกอากาศไปแล้วทางช่อง YouTube: GMMTV OFFICIAL ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 รวมทั้งสิ้นจำนวน 5 ตอน  และก็มาถึงกิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญ คือการรวมบทสรุปคอนเทนต์ทั้ง 5 ตอน มาไว้ในงาน “Young Survivors LEVEL UP” โดยเป็นงานรวมพลเหล่า Young Survivors และ Master Class แบบครบทีมจัดเต็มในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ หอดนตรีและการแสดงอโศกมนตรี 1 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 

ในงานดังกล่าว เหล่าเยาวชน Gen Z ที่มาร่วมงาน ได้มีโอกาสได้กระทบไหล่กับเหล่าแก๊ง Young Survivors ตัวเป็นๆ อย่าง คริสพีรวัส เตตะวัน ปอนด์ณราวิชญ์ ภูวินทร์ตั้งศักดิ์ยืน นีโอตรัย อาร์มวีรยุทธโฟร์ทณัฐวรรธน์  ที่จะมาสร้างสีสันและความสนุกสนานแบบครบทีมจัดเต็ม ร่วมกิจกรรม Workshop ที่แสนจะเพลิดเพลินไปกับเหล่า Master Class  ป๋าเต็ดยุทธนา บุญอ้อม หนุ่ยพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรีนนิธิวัชร์ โค้ดดี้อรรถพล ที่จะมาถ่ายทอดความรู้ทักษะแห่งอนาคตด้วยประสบการณ์ตรง พร้อมโอกาสร่วมสนุกเล่นเกมสุดฮากับพิธีกรแต่ละคลาส  ก็อตจิทัชชกร ป๋อมแป๋มนิติ กอล์ฟกิตติพัทธ์ เจนนี่ ปาหนัน นอกจากนี้ยังจัดช่วงพูดคุยกับเหล่า Master Class ให้ Gen Z ได้รับฟังแง่คิดดีๆ จากกูรูด้านต่างๆ ก่อนปิดท้ายด้วยโชว์สนุกๆ ถึง 5 ชุด จากเหล่าศิลปินที่มาร่วมงาน   

“มูลนิธิเอสซีจี หวังว่า ทักษะที่ได้ในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆ Gen Z ให้สามารถนำทักษะไปปรับใช้เวลาที่ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรค ยิ่งโลกเปลี่ยนแปลงเร็วเท่าไร เราทุกคนยิ่งต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาตัวเองให้เก่งทั้งการงาน และเก่งทั้งการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม คุณสุวิมล กล่าวสรุป

ติดตามชมรายการ “Young Survivors รุ่นนี้…ต้องรอด” ย้อนหลังได้ทางช่อง YouTube: GMMTV OFFICIAL และติดตามข้อมูลข่าวสารของมูลนิธิเอสซีจี ได้ที่ www.scgfoundation.org  และเฟซบุ๊ก LEARNtoEARN

#LearntoEarn #เรียนรู้เพื่ออยู่รอด #รุ่นนี้ต้องรอด #มูลนิธิเอสซีจี

เติมก่อนโต Go Live: The Journey Of Growth

การแสดงผลงานการเรียนรู้ของน้อง ๆ นักเรียนทุนมูลนิธิเอสซีจี จากค่าย “เติมโตก่อนโต Plus+” ทั้ง 5 กลุ่มอาชีพ ที่จะมาแสดงผลของความพยายามในการตั้งเป้าหมาย วางแผน และลงมือทำตามความสนใจตลอด 3 สัปดาห์

โครงการเติมก่อนโต ตั้งอยู่บนฐานของแนวคิด การเลือกเรียนสําหรับการดํารงชีพ (Learn To Earn) คือการเปิดมุมมองสร้างแรงบันดาลใจต่ออาชีพที่สามารถสร้างรายได้ในอนาคตและวางแผนการในการพัฒนาตนเองสู่อาชีพในอนาคต โดยการสร้างทักษะให้นักเรียนทุนในโครงการเข้าใจถึงเรื่องการออกแบบชีวิตด้วยหลักการ Design thinking และปลูกฝัง Growth mindset พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ น้อง ๆ ได้เรียนรู้ วางแผน รวมไปถึงการลงมือทำจริงในโครงการ 

เป้าหมาย : 

เพื่อเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมโครงการต่ออาชีพต่าง ๆ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้มีการวางแผนเพื่อพัฒนาตนเองสู่อาชีพในอนาคต นำทีมสอนโดยวิทยากรจาก Tact และแขกรับเชิญพิเศษที่มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ในโครงการ เช่น เติร์ด – อนุโรจน์ เกตุเลขา นักร้องนำวง Tilly Birds, ฟ้าใส (อนันตญา ชินวงศ์) รุ่นพี่นักเรียนทุน SCG SHARING THE DREAM และเจ้าของร้านขายต้นไม้ด่าง,กระถางออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ, ผศ.ดร.อรรถพล อนันตวรสกุล  อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กลุ่มเป้าหมาย :

นักเรียนทุนในโครงการของมูลนิธิ SCG Foundation ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 ในปีการศึกษา 2564 (รวมถึงให้สิทธิน้อง ๆ ชวนเพื่อนที่สนใจเข้าร่วมโครงการด้วย)

Young​ Survivors​ Level Up

นักเรียนทุนมูลนิธิเอสซีจี​ ร่วมลงสนามจริงลองเรียนรู้ “ทักษะแห่งอนาคต” แบบ​ Exclusive ​ ในงาน​ Young​ Survivors​ Level Up​ พร้อมสนุกไปกับ​ Talk & Show จาก​แก๊ง “YOUNG SURVIVORS” แบบครบทีม และเหล่า​ Master Class​ เช่น​ ป๋าเต็ด ป๋อมแป๋ม​ คริส​ นีโอ​ หนุ่ย​-พงศ์สุข​ เต-ภูวินทร์ ก็อตจิ​ โฟร์ท​ นีโอ​ โค้ดดี้ เจนนี่​ เป็นต้น

ผู้สนใจ​ร่วมชม​ Live​ จากงานได้​ พุธที่​ 10​ สิงหาคม​ 2565​ เวลา​ 18.00​ น.​ ทางเพจ​ Facebook​ มูลนิธิเอสซีจี, YouTube​ GMMTV

#รุ่นนี้ต้องรอด #YoungSurvivors #LearntoEarn #เรียนรู้เพื่ออยู่รอด​ #มูลนิธิเอสซีจี​ #GMMTV

Young ต้องเติม

โครงการ Young ต้องเติม เป็นหนึ่งในกิจรรมพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุน Sharing the Dream ของมูลนิธิเอสซีจี ที่มุ่งให้นักเรียนทุนฯ ได้พัฒนาทักษะทั้งในเชิง Hard – Soft Skill อันจะเป็นส่วนสาคัญในการเติบโตและมุ่งไปสู่จุดมุ่งหมาย ตามแนวคิด Learn to Earn โดยมูลนิธิฯ ได้สำรวจความต้องการของนักเรียนทุนฯ พบว่าน้องๆ มีความสนใจที่จะเพิ่มทักษะในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน การสื่อสารในที่สาธารณะ ช่องทางการเพิ่มรายได้ รวมถึงสนใจที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคม แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มูลนิธิฯ จึงได้ออกแบบและจัดทำโครงการ Young ต้องเติม ขึ้นเพื่อเติมเต็มความรู้ พัฒนาทักษะให้กับน้องๆ นักเรียนทุน 

“Young ต้องเติม” เปิดโอกาสให้นักเรียนทุนฯ ในระดับ ปวส. และ ปริญญาตรี ทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ โดยแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 2 ช่วงหลัก 

1. Online Class สร้างแรงบันดาลใจ เรียนรู้เทคนิคกับ KOL ขวัญใจวัยรุ่น โดยมี 4 วิชาด้วยกันได้แก่ 

: English for daily life โดย คุณคะน้า จาก ฝรั่งอั้งม้อ (Farang Angmor) 

: Public Speaking โดย คุณตอนยอน และ คุณกวิน จากเพจนวล 

: การลงทุนและการเงินสาหรับวัยรุ่น โดย คุณเคน จักรกฤษณ์ จากMoney Buffalo : ESG Young Influencer โดยคุณหนุ่ม SD SCG และคุณแก๊ป จาก Salmon House 

2. Self Learning & Assignment เมื่อจบจาก Online Class แล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการ ก็จะได้ฝึกฝนทั้ง 4 วิชา ในรูปแบบ online ผ่านทาง platform ที่มูลนิธิฯ จัดเตรียมไว้ให้ พร้อมทำแบบทดสอบ เพื่อรับประกาศนียบัตรจากโครงการ 

เพราะโลกยุคดิจิทัลหมุนไว การก้าวให้ทันโลกจึงสาคัญเป็นอย่างมาก มูลนิธิฯ จึงสนับสนุนและส่งเสริมให้นักเรียนทุนฯ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ไขว่คว้า กล้าลองสิ่งใหม่ๆ เพิ่มทักษะให้กับตัวเองเพื่อพร้อมที่จะก้าวสู่อนาคตตามแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด

ไฮไลท์กิจกรรม “Young ต้องเติม” https://www.facebook.com/watch/?v=804836880793075

Creative Idea for Change: มาร่วมแลกเปลี่ยน คิด เสริม เกลาไอเดียเพื่อแก้ปัญหา

School of Changemakers ร่วมกับ TK Park และมูลนิธิเอสซีจี ชวนผู้ที่สนใจสนับสนุนการสร้างเปลี่ยนแปลง มาใช้ประสบการณ์และความสนใจของตัวเองมาช่วยคิด เสริม เกลาไอเดียของเหล่าว่าที่ Changemaker ที่กำลังมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาสังคมที่ตนสนใจ ได้ไอเดียที่สร้างสรรค์ และทำได้จริง หรือพกโจทย์ประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจ มาหาไอเดียที่สร้างสรรค์จากเพื่อนหลากหลายวงการและอายุภายในงานก็ได้เช่นกัน

ที่มา

นอกจากไอเดียสร้างสรรค์ที่จะแก้ปัญหาสังคมอันซับซ้อนมักเป็นไอเดียที่พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และความมีส่วนร่วมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแล้ว ยังมักจะเป็นไอเดียที่เจ้าของได้ดึงเอาความสนใจ ความชอบ ความชำนาญของตัวคนทำเองออกมาคิดแก้ปัญหา ทำให้ได้ไอเดียที่มีความเป็นตัวเอง (Original) แตกต่างจากวิธีการแก้ไขปัญหาเดิม ๆ เติมสิ่งที่ขาดหายไปจากระบบ และทำให้ผู้ประสบปัญหาหรือเกี่ยวข้องแก้ปัญหาตัวเองได้ พร้อมๆ ไปกับการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองของคนทำ

แต่ถึงแม้จะมีเครื่องมือ/ตัวช่วยในการคิดไอเดีย ในโลกที่มีไอเดียเจ๋ง ๆ เกิดใหม่ทุกวันและก้าวหน้าขึ้นทุกวัน จนดูเหมือนว่าเป็นการคิดไอเดียใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์สังคมและคนทำไม่ใช่เรื่องง่าย

เวิร์กช็อปนี้ จึงเกิดขึ้นมาเพื่อสร้างโอกาสให้คนได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และมาแลกเปลี่ยน ช่วยเสริม เติม เกลาไอเดีย เพื่อสร้างสิ่งใหม่ให้สังคม กับคนที่สนใจทำเพื่อสังคมหลากหลายประเด็นปัญหาและจากหลากหลายพื้นหลัง เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีของดีอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นความถนัด ความชอบ หรือประสบการณ์ ‘ของดี’ เหล่านี้สามารถเป็นพลังที่จะส่งต่อให้คนอื่นได้ และการคิดไอเดียสร้างสรรค์ของว่าที่นักเปลี่ยนแปลงก็คงไม่ยากเกินไป

งานนี้ทำอะไรบ้าง?
– ลองใช้ชุดเครื่องมือ (Toolkit) ช่วยคิดไอเดียที่สร้างสรรค์จากความเป็นตัวเอง และความเป็นไปได้
– คิดไอเดียแก้ปัญหา ภายใต้กรอบการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน Environment, Social, Good Governance (ESG)
– ช่วยเพื่อนว่าที่ Changemakers สร้างสรรค์ไอเดีย ด้วยการแลกเปลี่ยน คิด เสริมกับผู้เข้าร่วมที่สนใจสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง

กิจกรรมนี้เหมาะกับใคร

  • Supporter for Change บุคคลทั่วไป ผู้ที่อยากจะมีส่วนร่วมสนับสนุนไอเดีย หรือความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา ช่วยสร้างสรรค์ไอเดียเป็นจริง และอยากช่วยเพื่อนทำ
  • คุณครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักการศึกษา ผู้บริหาร โรงเรียนมัธยมหรือมหาวิทยาลัย สนใจเรียนรู้กระบวนการ เพื่อนำไปใช้งานพัฒนาเยาวชน คนรุ่นใหม่ให้คิดไอเดียแก้ปัญหาสังคม
  • พนักงานองค์กร ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจกระบวนการคิดไอเดียแก้ปัญหา ภายใต้กรอบการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน Environment, Social, Good Governance (ESG) เพื่อนำไปต่อยอดในการทำงาน
  • พร้อมเปิดกว้างทางความคิดเห็น รับฟัง และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนกับผู้อื่นได้
    *ทีมงานจะพิจาณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทักษะ ความสนใจเพื่อกระจายให้เกิดความหลากหลายของผู้เข้าร่วม

กำหนดการ

12.45 – 13.00 ลงทะเบียน
13.00 – 13.15กล่าวต้อนรับเปิดงาน วัตถุประสงค์ของกิจกรรม
13.15 – 13.35กิจกรรม DREAM IT DO IT คิดไอเดียโดยดึงความสนใจ ความถนัดของตัวเองออกมา
13.35 – 13.50พักเบรก
13.50 – 14.50กิจกรรมแลกเปลี่ยน เสริม เกลา ไอเดีย
14.50 – 15.00กิจกรรมสะท้อนการเรียนรู้ (Reflection) ประเมินกิจกรรม (Evaluation) และปิดงาน

วันเวลา สถานที่

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565 เวลา 13.00-15.00 น.
สถานที่ ห้อง Mini Theater TK Park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

สมัครและสอบถามเพิ่มเติม

กิจกรรมนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม และจำกัดผู้เข้าร่วมทั้งหมดไม่เกิน 40 คน เพื่อรักษาระยะห่างทาง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ohr@schoolofchangemakers.com (อ้อ)

Young ESG Innovator (YESGI)

โครงการ Young ESG Innovator (YESGI)  เป็นความร่วมมือระหว่าง SCG Foundation กับ School of Changemakers ที่จะชวนคนรุ่นใหม่อายุ 18-25 ปี และผู้ที่สนใจทั่วประเทศ มาทำความเข้าใจปัญหาสังคมเชิงลึกและหาวิธีแก้ไขปัญหา ภายใต้กรอบการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน Environment, Social, Good Governance (ESG) เพื่อพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในชุมชนและสังคมของตัวเอง

ที่มาโครงการ

SCG Foundation หรือ มูลนิธิเอสซีจี ถือกำเนิดขึ้นมาจากเจตนารมณ์อันแน่วแน่ ในการดำเนินกิจกรรมทางสังคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเอสซีจีในเรื่อง “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน” ความมุ่งหวังของมูลนิธิฯ คือ การทำงานเพื่อพัฒนา “คน” โดยเน้นที่เด็กและเยาวชน เพราะพวกเขาเหล่านี้ คือ อนาคตที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืน

School of Changemakers หรือ SOC เป็นสถาบันที่เกิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนคนที่อยากแก้ปัญหาสังคม ซึ่ง SOC มองว่าการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่และแนวคิดเดิมไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะขาดความคิดและมุมมองใหม่ๆ ทำให้สังคมต้องการนวัตกรรุ่นใหม่ ซึ่ง นวัตกรรุ่นใหม่ต้องมีความสามารถในการมอง การทำความเข้าใจปัญหา และการหาวิธีการเพื่อไปแก้ไขปัญหาในระบบอย่างตรงจุด

ในด้าน SCG Foundation ยังคงมุ่งเสริมสร้าง/ปลูกฝังแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของเยาวชนในปัจจุบัน และให้โอกาสเยาวชนได้แสดงศักยภาพในด้านต่างๆ และในโอกาสอันดีที่ SCG Foundation ได้ร่วมมือกับ School of Changemakers ครั้งนี้ เราจึงสนับสนุน “นวัตกรรุ่นใหม่” ที่ต้องการโอกาส แนวทาง องค์ความรู้เพื่อใช้ในการทำความเข้าใจและมองหาโอกาส /ช่องว่างในการหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ตลอดจนเรียนรู้และรับประสบการณ์ตรงจากการทดลองปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ Young ESG Innovator ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผ่านคอร์สออนไลน์ทั้ง 3 คอร์ส

โครงการนี้เหมาะกับใคร

  1. เยาวชนคนรุ่นใหม่อายุ 18-25 ปี ที่สนใจพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมในการเป็น
    ผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง
    *ผู้ที่อายุไม่ตรงเกณฑ์สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรรมได้ ขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้ที่อายุตามเกณฑ์ก่อน
  2. มีความสนใจในการแก้ไขปัญหาปัญหาสังคมในชุมชนและสังคมของตัวเอง
  3. เป็นผู้มองหาการสนับสนุนเชิงความความรู้และกระบวนการ เพื่อเริ่มต้นสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง
  4. มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหาสังคม พร้อมเรียนรู้ ฟัง feedback และปรับโครงการให้บรรลุผลได้ตามเป้าหมาย
  5. มีเวลาเพื่อทำงานโครงการอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่โครงการจัดขึ้นได้ ตลอดระยะเวลา 5 เดือน (โปรดอ่านรายละเอียดกระบวนการและกำหนดการโครงการด้านล่าง)
  6. มีความพร้อมด้านอุปกรณ์สำหรับการเรียนและประชุมผ่านช่องทางออนไลน์ และสามารถเข้าร่วมกิจกรรม on site ได้ตลอดโครงการ

กิจกรรมในโครงการ

  1. Insight Tanks (8 สัปดาห์) คอร์สออนไลน์ เรียนรู้วิธีการทำความเข้าใจปัญหาและพัฒนาทักษะการเข้าอกเข้าใจ (Empathy) คิดวิพากษ์ (Critical Thinking) เพื่อให้ได้มาซึ่งความเข้าใจในเชิงลึกที่เห็นช่องว่างหรือโอกาสในการแก้ปัญหา (Problem Insights)
  • ปฐมนิเทศออนไลน์ เพื่อแนะนำคอร์ส ทำความรู้จักเพื่อน
  • 5 บทเรียน ประกอบไปด้วยการดูวีดีโอและทำแบบฝึกหัดส่งทุกสัปดาห์ ได้แก่
    Scoping Problem, Conducting Secondary Research, Preparing to Empathize, Empathising Stakeholders, Extracting Insight
  • แบบฝึกหัดที่ส่งมา จะมีผู้ให้คำแนะนำผ่านคอมเมนต์และคำปรึกษา
  • เกียรติบัตร เมื่อจบคอร์ส
  1. Idea Pools (2 สัปดาห์) คอร์สออนไลน์​และเวิร์กช็อป เรียนรู้วิธีการตั้งโจทย์ปัญหาให้ชัดเจน และวิธีการดึงเอาจุดเด่นออกมาใช้สร้างสรรค์ไอเดียแก้ไขปัญหาสังคมในแบบฉบับของตัวเอง
  • 2 บทเรียน ซึ่งประกอบไปด้วยการดูวีดีโอและทำแบบฝึกหัดส่งทุกสัปดาห์ ได้แก่ How Might We, Dream it Do it
  • แบบฝึกหัดที่ส่งมาจะมีโค้ชให้คำแนะนำผ่านคอมเมนต์และคำปรึกษา หรือเลือกรับคำแนะนำจากทีมงาน School of Changemakers ในรูปแบบคอมเมนต์ได้
  • เวิร์กช็อป Creative Idea for Change [on-site] เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียกับเครือข่าย
    กลุ่มนักเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม
  • เกียรติบัตร เมื่อจบคอร์ส
  1. Prototype Sandbox (4 สัปดาห์) คอร์สเรียนออนไลน์ลงมือแก้ไขปัญหาสังคม และอีเวนท์ทดลองทำจริง เพื่อให้ได้แนวทางในการริเริ่มโปรเจกต์หรือกิจการสังคมต่อไป
  • 6 บทเรียนซึ่งประกอบไปด้วยการดูวีดีโอและทำแบบฝึกหัดส่งทุกสัปดาห์ ได้แก่ Idea Sketch, Try-out Desicion, Prototyping Loop, Synthesis Review, Prototype Journal, Reflection, Theory of Change
  • แบบฝึกหัดที่ส่งมาจะมีโค้ชให้คำแนะนำผ่านคอมเมนต์และคำปรึกษา
  • อีเวนท์ Prototype Try-out [on-site] เพื่อทดลองทำไอเดียกับกลุ่มเป้าหมาย

ระยะเวลาดำเนินกิจกรรม

5 – 21 พฤษภาคม  เปิดรับสมัคร
22 พฤษภาคมประกาศผลทีมที่ได้รับคัดเลือกผ่านทางอีเมล
29 พฤษภาคม 10.00 – 12.00ปฐมนิเทศ ผ่านทาง ZOOM
29 พฤษภาคม – 24 กรกฎาคมคอร์ส Insight Tanks (8 สัปดาห์) 
24 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคมสรุปและประเมินผลการเรียนคอร์ส Insight Tanks
31 กรกฎาคม – 13 สิงหาคมคอร์ส Idea Pools (2 สัปดาห์)
13 สิงหาคมเวิร์กช็อป Creative Idea for Change แลกเปลี่ยน-เกลา-เสริมไอเดีย
14 สิงหาคม – 3 กันยายนสรุปและประเมินผลการเข้าคอร์ส Idea Pools
4 กันยายน – 10 ตุลาคมคอร์ส Prototype Sandbox (4 สัปดาห์)
  10 กันยายน 2565อีเวนท์ Prototype Try-out ทดลองต้นแบบ
10 ตุลาคม – 17 ตุลาคม• สรุปและประเมินคอร์ส Prototype Sandbox
• ประเมินผลการเข้าโครงการ YESGI
• ส่งผู้เรียนที่ต้องการนำผลการทดลองต้นแบบมาพัฒนาเป็นโมเดลแก้ไขปัญหาสังคม

ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ของโครงการ 

  1. https://www.schoolofchangemakers.com/event/idpl-yesgi/
  2. https://www.schoolofchangemakers.com/event/insight-tanks-2022-young-esg-innovator/
  3. https://www.schoolofchangemakers.com/event/idplclub/?fbclid=IwAR0osJViG6_qpCUPorDH_HirZDmw3UO93a2e7e7XPPWW9Zf2yfS8gmKBzGg

ส่งมอบที่พักคอยเพื่อประชาชน ให้กับสถาบันบำราศนราดูร ถวายเป็นพระราชกุศลฯ

มูลนิธิเอสซีจี ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบที่พักคอยเพื่อประชาชน ให้กับสถาบันบำราศนราดูร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

คงจะดีไม่น้อยถ้าระหว่างรอรับการรักษาจะมีพื้นที่ที่ช่วยเยียวยาจิตใจของผู้ป่วย และญาติ ให้สดชื่นเบิกบาน มีกำลังใจ และมีความหวัง เพราะ “เมื่อใจสบาย ความทุกข์ทางกายก็จะเบาบางลง”